• การแทงไพ่คี่

เทคนิคนี้มาจากการพิจารณาความน่าจะเป็น เนื่องจากไพ่ 1 สำรับ จะมี 52 ใบ มีไพ่เลขคู่ 24 ใบ และมีไพ่เลขคี่ 28 ใบ และในแต่ละรอบเสือมังกรจะใช้ไพ่ 5-6 สำรับต่อการเล่น หมายความว่าการเล่นแต่ละรอบจะมีไพ่เลขคี่มากกว่าไพ่เลขคู่ จึงมีโอกาสออกเลขคี่มากกว่า นี่จึงเป็นเหตุผลที่อัตราการจ่ายเวลาแทงไพ่คี่น้อยกว่าการแทงไพ่คู่ 

• การแทงเค้าไพ่หางมังกร

สูตรหางมังกร คือ การฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะติดต่อกันหลายๆรอบ วิธีการใช้ เทคนิคเสือมังกรทำกำไร นี้คือให้รอจังหวะที่ฝั่งเสือหรือฝั่งมังกรชนะติดๆกันหลายๆรอบ เช่น ฝั่งเสือชนะ 4 รอบรวด ในรอบถัดไปให้แทงไปที่ฝั่งเสือได้เลย แล้วรอบต่อไปแทงซ้ำไปอีกจนกว่าฝั่งที่ชนะจะเปลี่ยนไปเป็นอีกฝั่งแล้วค่อยหยุดตาม แล้วรอดูจังหวะการเกิดหางมังกรอีกครั้ง  แล้วเข้าแทงตามเหมือนเดิม

• การแทงเค้าไพ่ปิงปอง

เทคนิคนี้จะคล้ายกับเทคนิคการแทงเค้าไพ่หางมังกร แต่ผู้ชนะจะสลับฝั่งกันไปมาทุกตา หรือก็คือ รอบนี้มังกรชนะ รอบต่อไปเสือชนะ สลับกันไปมาเรื่อยๆ เหมือนการตีปิงปองกลับไปมา จึงเรียกเทคนิคนี้กันว่า เค้าไพ่ปิงปอง วิธีการเล่นเทคนิคนี้ คือ เมื่อมั่นใจว่าเป็นเค้าไพ่ปิงปองแล้วให้แทงฝั่งตรงข้ามกับผู้ชนะรอบที่แล้วได้เลย 

• การรอคอยจังหวะไพ่ใหญ่

เกมไพ่เสือมังกร นอกจากจะมีไพ่เลขคี่มากกว่าไพ่เลขคู่แล้ว ยังมีไพ่ที่มีแต้มเกิน 10 แต้ม อยู่มากทีเดียว หรือที่เรียกเราเรียกกันว่า ไพ่ใหญ่ โดยไพ่ใหญ่ จะประกอบไปด้วยไพ่ 10, J, Q และ K ซึ่งไม่ว่าฝั่งเสือหรือฝั่งมังกรถ้าได้ไพ่ใหญ่ไปก็จะมีโอกาสที่ชนะในรอบนั้นสูงมาก ซึ่งเทคนิคในการเล่น คือ ให้รอดูไพ่ใหญ่ที่ออกทั้งสองฝั่ง ถ้าฝั่งไหนได้ไพ่ใหญ่ จำนวนน้อยกว่าให้เลือกแทงฝั่งนั้นได้เลย เพราะโดยปกติในเกมเสือมังกรไพ่ใหญ่จะออกเฉลี่ยแล้วเท่าๆกันทั้ง 2 ฝั่ง ดังนั้นฝั่งที่ไพ่ใหญ่ออกน้อย หมายความว่า จะไปออกในรอบท้ายๆนั่นเอง

• เค้าไพ่แบบสองตาติด

เทคนิคนี้จะมีลักษณะคล้ายกับเค้าไพ่ปิงปอง แต่แตกต่างกันตรงที่ ผลจะออกมาชนะฝั่งละ 2 รอบสลับกันไปมา เช่น มังกร มังกร, เสือ เสือ, มังกร มังกร, เสือ เสือ ซึ่งท่านต้องสังเกตุจนแน่ใจว่าเป็นเค้าไพ่แบบสองตาติด แล้วจึงแทงไปจนกว่าเค้าไพ่จะเปลี่ยน